ชายชาวยะโฮร์ วัย 70 ปี สูญเงิน 2.1 ล้านริงกิต ในข้อหาฉ้อโกงการลงทุนแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
รัฐยะโฮร์ พ่อค้าเสื้อผ้าวัย 70 ปี ถูกหลอกลวงเงินไปประมาณ 2.1 ล้านริงกิต ในข้อหาฉ้อโกงการลงทุนออนไลน์
คอม ดาตุก เอ็ม คูมาร์ ผู้บัญชาการตำรวจรัฐยะโฮร์ กล่าวว่า ผู้เสียหายอ้างว่าในเดือนพฤศจิกายน 2567 เขาถูกเข้าร่วมกลุ่มลงทุนแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศผ่าน WhatsApp "เหยื่อเชื่อในสัญญาของการทำกำไรอย่างรวดเร็ว, โอนเงิน RM2,118,000 ไปยังบัญชีธนาคารหลายบัญชีตามคำแนะนำระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคม," เขากล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันอังคารที่ 17 ธันวาคม.
Kumar กล่าวเพิ่มเติมว่าผู้เสียหายยังได้รับคำสั่งให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเพื่อตรวจสอบ "การลงทุน" ของเขา "หลังจากการตรวจสอบ, app แสดงให้เห็นว่าการลงทุนของเขาสร้างกำไร RM6,216,000. อย่างไรก็ตาม, เมื่อเหยื่อพยายามที่จะถอนหุ้นของเขาและถอนกำไร, มันไม่ประสบความสำเร็จ. เมื่อรู้ตัวว่าถูกหลอกลวง, ผู้เสียหายไปแจ้งความกับตำรวจ,"เขากล่าวและเสริมว่าผู้เสียหายไปแจ้งความในวันอังคาร.
คดีอยู่ระหว่างการสอบสวนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 420 (ฉ้อโกงประชาชน) ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่ต่ำกว่าหนึ่งปีและไม่เกินสิบปี พร้อมเพิ่มโทษเฆี่ยนและปรับ
คุมาร์เรียกร้องให้ประชาชนตื่นตัวและหลีกเลี่ยงการถูกดึงดูดจากโอกาสการลงทุนที่โฆษณาบนโซเชียลมีเดียหรือแพลตฟอร์มออนไลน์อื่น ๆ ได้ง่าย "ทุกคนอาจตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงโดยไม่คำนึงถึงสถานะหรืออาชีพของพวกเขา ดังนั้นเราขอแนะนำให้ประชาชนตรวจสอบโอกาสในการลงทุนอย่างรอบคอบผ่านหน่วยงานที่น่าเชื่อถือเช่นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (PDRM), ธนาคารแห่งชาติมาเลเซียและสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์แห่งประเทศมาเลเซีย" เขากล่าว
เขายังสนับสนุนให้ประชาชนติดตามความเคลื่อนไหวการกระทำผิดทางธุรกิจล่าสุดบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และ TikTok ผ่านสำนักงานสอบสวนอาชญากรรมทางธุรกิจ หรือ CCID เพื่อเพิ่มความระมัดระวัง
สรุป
เหตุการณ์นี้ย้ำอีกครั้งถึงความสำคัญของการตื่นตัวในการลงทุนทุกรูปแบบ นักต้มตุ๋นมักจะใช้ความปรารถนาของผู้คนที่จะรวยอย่างรวดเร็วและหลอกลวงนักลงทุนผู้บริสุทธิ์ผ่านโอกาสการลงทุนที่ผิดพลาด ประชาชนควรเพิ่มความระมัดระวังเกี่ยวกับแพลตฟอร์มการลงทุนออนไลน์ที่ไม่มีการควบคุมและดำเนินการตรวจสอบสถานะก่อนการลงทุนเพื่อปกป้องความมั่นคงทางการเงินของตนเอง